ใบงานที่7
การตกแต่งwebboardให้สวยงามและน่าสนใจ
1.การใส่ปฏิทินในเวบบอร์ด - ค้นหาโค้ดปฏิทินจากเวบgoogleพิมพ์คำว่าcodeปฏิทิน - เลือกเวบที่เกี่ยวข้องเลือก รูปแบบปฏิทินที่ชอบแล้วcopycode - เปิดบล็อกของตนเองเข้าไปที่รูปแบบ จากนั้นคลิ๊ก ในส่วนองค์ประกอบของหน้า เพิ่ม Gadget คลิ๊กในส่วนของ html /จาวาสคริป นำโค๊ดที่ได้วางไว้ในส่วนของเนื้อหา แล้วกดบันทึก(save)เพื่อยืนยัน
2.การใส่นาฬิกา - ค้นหาโค้ดนาฬิกาจากเวบgoogleพิมพ์คำว่าcode นาฬิกา -เลือกเวบที่เกี่ยวข้องเลือกรูปแบบนาฬิกาที่ชอบแล้วcopycode - เปิดบล็อกของตนเองเข้าไปที่รูปแบบ จากนั้นคลิ๊ก ในส่วนองค์ประกอบของหน้า เพิ่ม Gadget คลิ๊กในส่วนของ html /จาวาสคริป นำโค๊ดที่ได้วางไว้ในส่วนของเนื้อหา แล้วกดบันทึก(save)เพื่อยืนยัน
3.การทำสไลด์ - เข้าwww.slide.com เพื่อสมัครสมาชิก- เข้าสู่ระบบ โดยการใส่ username และ password ที่ได้สมัครไปข้างต้น - เมื่อเข้าสู่ระบบแล้วคลิ๊กสร้างการแสดงภาพสไลด์ จากนั้นไปที browse เพื่อเพิ่มรูปภาพที่ต้องการ ซึ่งภาพนี้อาจอยู่ในเครื่องคอมพวิเตอร์ของท่านหรือจากเวบที่ท่านทำการฝากรูปไว้ ทำการuploadรูป- ปรับตกแต่งให้สวยงามตามความต้องการโดยเลือกรูปแบบ หลากหลาย ขนาด เอ๊ฟเฟกต่างๆ ตามใจชอบ เมื่อเลือกได้ตามที่ต้องการ ให้บันทึก เพื่อรับรหัส code จากนั้น copy code ที่ได้ไปวางไว้ในส่วนของบทความใหม่ หรือใน Gadget ก็ได้. เสร็จแล้ว คลิ๊ก บันทึกเพื่อยืนยันเกร็ดเล็กๆน้อยๆ....หากท่านเข้าเวบwww.slide.comแล้วพบว่าเป็นภาษาอังกฤษ อย่างเพิ่งตกใจ ให้เลื่อนเม้าส์ไปด้านล่างจะมีเมนูให้ท่านเปลี่ยนภาษาได้ .....
4.การปรับแต่งสีในblog - เปิด blog ของตัวเอง เข้าไปในส่วนของ รูปแบบ จากนั้น คลิ๊ก แบบอักษรและสี สามารถเลือกปรับแต่งสี ในส่วนต่างๆของหน้า blog เมื่อเลือกเสร็จให้คลิ๊ก บันทึกการเปลี่ยนแปลงเพื่อยืนยันเกร็ดเล็กๆน้อยๆ หากท่านเปลี่ยน template ของบล็อก การปรับแต่งสีเป็นสิ่งสำคัญ5.การใส่เพลง -เข้าเวบhttp://happyvampires.gmember.com/home.php?1402 - เลือกเพลงที่ชื่นชอบ copy embed เพื่อนำ code ที่ได้ไปวางไว้ในบล็อกตนเอง- เข้าบล็อกตนเอง ไปวางในส่วนของบทความใหม่
วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ใบงานที่ 8
เขียนโดย krootanwadmon ที่ 19:22 0 ความคิดเห็น
ใบงานที่ 6
1.ใช้ทำอะไรได้บ้าง
-ค้นหาเว็บไซด์ทั่วโลก
-ค้นหารูปภาพในหัวข้อที่ต้องการ
-ค้นหาเส้นทางการเดินทาง แผนที่ทั่วโลก
-ใช้แปลภาษาได้ถึง 26 ภาษารวมถึงการออกเสียงของแ-กูรูแหล่งความรู้ ข้อคำถามที่น่าสนใจ ที่มีผู้นำเสนอในหัวข้อต่าง ๆ-ค้นหาบล๊อกที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อที่ต้องการ-ติดต่อ อีเมล์ที่รวดเร็ว2.การค้นหาข้อมูลขั้นสูงมีวิธีการอย่างไรในการค้นหาข้อมูลขั้นสูงเป็นการระบุข้อจำกัดหรือขอบเขตของข้อมูลที่ต้องการค้นหาให้ตรงกับที่ต้องการมากขึ้น- สามารถระบุภาษาที่ต้องการค้นหาได้- สามารถระบุภูมิภาคที่ต้องการข้อมูลได้- สามารถระบุรูปแบบของไฟล์ที่ต้องการค้นหาได้ เช่น เอกสารเวิร์ด เพาเวอร์พอยด์ เป็นต้น- สามารถระบุวันที่เว็บนั้นแสดงครั้งแรกได้(การอัฟเดทขึ้นเว็บ)- สามารถกำหนดให้มีการกรองข้อมูล เช่น เว็บทีอาจเป็นอันตราย3.Webที่ใช้ค้นหาข้อมูล นอกจาก google แล้วมีอะไรอีก บอกชื่อ Web- http://www.siamguru.com/- http://www.yahoo.com/- http://www.altavista.com/- http://www.lycos.com/- http://www.infoseek.go.com/4.ให้กำหนดหมวดหมู่ในการค้นหาโดยใช้ googleกลุ่มข่าว กลุ่มผู้คน กลุ่มศิลปะ & บันเทิง กลุ่มสังคม & มนุษยธรรม กลุ่มวิทย์/เทคนิค กลุ่มธุรกิจ สุขภาพ กลุ่มบ้าน สันทนาการ กลุ่มคอมพิวเตอร์ กลุ่มโรงเรียนและมหาวิทยาลัย อ้างอิง http://school.obec.go.th/ckn/network8/new_page_11.htmhttp://groups.google.co.th/grphp?hl=th&tab=wghttp://m.www.yahoo.com/
เขียนโดย krootanwadmon ที่ 19:07 0 ความคิดเห็น
วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2552
ใบงานครั้งที่ 4
การจัดการความรู้(Knowledge Management – KM)การจัดการความรู้ หรือที่เรียกย่อ ๆ ว่า KM คือ เครื่องมือ เพื่อใช้ในการบรรลุเป้าหมายอย่างน้อย 3 ประการไปพร้อม ๆ กัน ได้แก่ บรรลุเป้าหมายของงาน บรรลุเป้าหมายการพัฒนาคน และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาองค์กรไปสู่การเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยที่ความรู้มี 2 ประเภท คือ 1. ความรู้ที่ฝังอยู่ในคน (Tacit Knowledge2. ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) การบรรลุผลสัมฤทธิ์ในการดำเนินการตามที่กำหนดไว้ ที่เรียกว่า Operation Effectiveness และนิยามผลสัมฤทธิ์ ออกเป็น 4 ส่วน คือ(1) การสนองตอบ (Responsiveness) ซึ่งรวมทั้งการสนองตอบความต้องการของ(2) การมีนวัตกรรม (Innovation) ทั้งที่เป็นนวัตกรรมในการทำงาน และนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์(3) ขีดความสามารถ (Competency) ขององค์กร และของบุคลากรที่พัฒนาขึ้น(4) ประสิทธิภาพ (Efficiency) ซึ่งหมายถึงสัดส่วนระหว่างผลลัพธ์ กับต้นทุนที่ลงไป องค์ประกอบสำคัญของการจัดการความรู้ (Knowledge Process) 1. “คน” ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดเพราะเป็นแหล่งความรู้ และเป็นผู้นำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ 2. “เทคโนโลยี” เป็นเครื่องมือเพื่อให้คนสามารถค้นหา จัดเก็บ แลกเปลี่ยน รวมทั้งนำความรู้ไปใช้อย่างง่าย และรวดเร็วขึ้น 3. “กระบวนการความรู้” นั้น เป็นการบริหารจัดการ เพื่อนำความรู้จากแหล่งความรู้ไปให้ผู้ใช้ เพื่อทำให้เกิดการปรับปรุง และนวัตกรรม กระบวนการจัดการความรู้ กระบวนการจัดการความรู้ (Knowledge Management) เป็นกระบวนการที่จะช่วยให้เกิดพัฒนาการของความรู้ หรือการจัดการความรู้ที่จะเกิดขึ้นภายในองค์กร มีทั้งหมด 7 ขั้นตอน คือ 1. การบ่งชี้ความรู้ เป็นการพิจารณาว่าองค์กรมีวิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ เป้าหมายคืออะไร และเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เราจำเป็นต้องใช้อะไร ขณะนี้เรามีความรู้อะไรบ้าง อยู่ในรูปแบบใด อยู่ที่ใคร 2. การสร้างและแสวงหาความรู้ เช่นการสร้างความรู้ใหม่ แสวงหาความรู้จากภายนอก รักษาความรู้เก่า กำจัดความรู้ที่ใช้ไม่ได้แล้ว 3. การจัดความรู้ให้เป็นระบบ เป็นการวางโครงสร้างความรู้ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเก็บความรู้อย่างเป็นระบบในอนาคต 4. การประมวลและกลั่นกรองความรู้ เช่น ปรับปรุงรูปแบบเอกสารให้เป็นมาตรฐาน ใช้ภาษาเดียวกัน ปรับปรุงเนื้อหาให้สมบูรณ์ 5. การเข้าถึงความรู้ เป็นการทำให้ผู้ใช้ความรู้เข้าถึงความรู้ที่ต้องการได้ง่ายและสะดวก เช่น ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) Web board บอร์ดประชาสัมพันธ์ เป็นต้นสารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลต่างๆ ที่ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงหรือมี การประมวลหรือวิเคราะห์ผลสรุปด้วยวิธีการต่างๆ ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์กัน มีความหมาย มีคุณค่าเพิ่มขึ้นและมีวัตถุประสงค์ในการใช้งานแหล่งที่มาของข้อมูลสารสนเทศ1. ข้อมูลภายใน หมายถึง ข้อมูลที่เกิดขึ้นภายในองค์กรนั้น ได้แก่ ข้อมูล การปฏิบัติงาน ที่เกี่ยวข้อง เช่น ข้อมูลงานบุคลากร ข้อมูลงานกิจการนักเรียน2. ข้อมูลภายนอก หมายถึง ข้อมูลที่เกิดขึ้นนอกองค์กร ข้อมูลหน่วยงานอื่นๆ6. การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้เครือข่ายการเรียนรู้ (Learning Network) หมายถึง การแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ข้อมูลข่าวสาร ประสบการณ์ และการเรียนรู้ระหว่างบุคคล กลุ่มบุคคล องค์การ และแหล่งความรู้ที่มีส่วนร่วมในกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง จนเป็นระบบที่เชื่อมโยงกัน ส่งผลให้เกิดการเผยแพร่และการประยุกต์ความรู้ใหม่ๆ เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาชีพหรือทางสังคม 7. การเรียนรู้ ควรทำให้การเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของงาน ที่มาhttp://images.rdirmutk.multiply.multiplycontent.com/attachment/0/SRJgGwoKCrwAAFDSUTI1/%E0http://www.samutsongkhram.go.th/KM%2051/km3.dochttp://www.trang.psu.ac.th/learning2teach/index.php?option=com_content&task=view&id=60&Itemid=34http://tsl.tsu.ac.th/file.php/1/courseware/aa_2/lesson02/lesson2-1.htm
เขียนโดย krootanwadmon ที่ 21:37 0 ความคิดเห็น